วันก่อนนี้ จ๋าไปเป็นวิทยากรที่งาน Woman Fast Forward ค่ะ มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ขอโทษจริงๆที่จำชื่อคุณพี่ไม่ได้ พี่เขาถามว่า
"จะทำอย่างไร เราถึงจะหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับผู้หญิงคนอื่นเสียที"
จ๋าชอบคำถามนี้มากนะคะ ผู้หญิงเราทำลายความมั่นใจ และความนับถือตัวเองโดยการเอาตัวไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่นเสมอ ทำไมเขาสวยกว่า ทำไมเขารวยกว่า ทำไมเขาผอมกว่า ทำไมเขามีแฟน ทำไมเขาได้เลื่อนตำแหน่ง ทำไมไม่เป็นเราบ้าง ทำไม ทำไม ทำไม...
จ๋ามีเวลาตอบไปนิดเดียว จ๋าตอบไปว่า "สุดท้ายแล้วผู้หญิงเราไม่ได้วัดกันที่ สวยกว่า รวยกว่า หรือประสบความสำเร็จมากกว่า แต่คนที่ชนะก็คือ คนที่ยิ้มได้นานกว่า เพราะรอยยิ้มคือความสุขที่ออกมาจากข้างใน"
เรารู้จักใครก็ตามได้มากที่สุดเท่าที่เขายอมให้เรารู้จักเท่านั้น คนที่ดูสวยหรู ดูมีความสุขจนเราอิจฉา เขาก็ต้องมีความทุกข์เหมือนกัน เพียงแต่เราไม่รู้ เขาผอมเพราะเขาต้องยอมเสียสละอาหารจานโปรดของเขา เขาสวยอาจแลกมาด้วยความเจ็บปวด ความสวยอาจเป็นยาพิษที่ทำให้มีแต่คนไม่จริงใจเข้ามาหา เขารวยแต่ไม่มีเวลาหยุด เราไม่มีวันรู้จักชีวิตของคนอื่นได้ทั้งหมด แล้วเราจะมาเสียเวลาอิจฉาเขาทำไม ความทุกข์เขามี เราก็มี ความสุขเขามี เราก็มี...
หัดตัวเองให้รู้จักค้นหาความสุขของตัวเองที่มาจากตัวเอง ไม่ใช่ความสุขที่มาจากคนอื่น ความทุกข์ไม่จีรัง ความสุขก็เช่นกัน มันมาแป๊บๆเดี๋ยวก็ไป แต่ในช่วงที่เรามีความสุข หยุดอยู่กับมันสักนิด แล้วทำความรู้จักกับมันสักหน่อยอย่างมีสติ ไม่ใช่หลงวูบวาบไปเรื่อยๆ เรามีความสุขเพราะอะไร กับใคร อย่างไร ทำความรู้จักกับมันแล้วเราจะมีทางกลับไปหามันได้บ่อยขึ้น
สุดท้าย ทุกข์ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี ทุกข์ทำให้เราเรียนรู้ ทุกข์ทำให้เราฉลาด เมื่อความทุกข์เข้ามา รับมือกับมันอย่างมีสติ ยิ้มและขอบคุณมันก่อนจะบอกลา
คนที่น่าอิจฉาที่สุดคือคนที่อยู่ได้กับทั้งทุกข์และสุข ทุกข์ก็รู้ สุขก็อยู่ได้ ไม่ยึดทุกข์ ไม่ติดสุข ไม่มองมันมากหรือน้อยกว่าความเป็นจริง
ยิ้มให้นานค่ะ ยิ้มให้ทั้งทุกข์ทั้งสุขนั่นแหละ เมื่อแก่นกลางใจเราแข็งแรง นั่นแหละคือคนที่น่าอิจฉาที่สุดอย่างแท้จริง...
#อย่าลืมซิตอัพหัวใจเราด้วย